ม. 1 : ​ค้นหาหนังสือธรรมะ หน้า 135 / 480

4.8 สัญลักษณ์ในศาสนา ศาสนาเชน ได้ใช้รูปของมหาวีระองค์ศาสดา เป็นสัญลักษณ์คล้ายกับศาสนาพุทธ คือ พระพุทธรูป เป็นสัญลักษณ์ต่างกันแต่รูปมหาวีระเป็นรูปเปลือย และต่อมา ศาสนาเชนได้ถือ เอาลวดลายต่างๆ ซึ่งมีภาพ

เนื้อหาพูดถึงสัญลักษณ์ต่างๆ ในศาสนาเชน โดยเริ่มจากรูปของมหาวีระองค์ศาสดาที่คล้ายคลึงกับพระพุทธรูป แต่มีความแตกต่างในรูปแบบ โดยเฉพาะส่วนที่เป็นรูปเปลือย นอกจากนี้ยังมีรายละเอียดเกี่ยวกับสัญลักษณ์ต่างๆ

4.9 ฐานะของศาสนาในปัจจุบัน ศาสนาเชนถึงแม้จะเกิดมานานแล้ว แต่ก็มีศาสนิกน้อย ประมาณ 3,700,000 คน (Encyclopaedia Britannica 1994 : 269) และนับถือกันอยู่ในอินเดียเท่านั้น ทั้งนี้ก็เพราะมี 2 สาเหตุ คือ 1.

ศาสนาเชนมีศาสนิกน้อย ประมาณ 3,700,000 คน ส่วนใหญ่ในอินเดีย เนื่องจากข้อปฏิบัติที่เข้มงวดและการไม่เผยแพร่ศาสนา ทำให้สูญเสียผู้ติดตามให้กับศาสนาฮินดู ขณะนี้มีขบวนการอนุพรตที่พยายามเผยแพร่หลักธรรม และชาว

5.1 ประวัติความเป็นมา เนื้อหาบทที่ 5 ศาสนาพุทธ 5.1.1 สภาวะของสังคมในชมพูทวีปก่อนสมัยพุทธกาล 5.1.2 สภาพบ้านเมืองก่อนสมัยพุทธกาล 5.1.3 ความเป็นมาของบรรพบุรุษพระพุทธเจ้า 5.2 ประวัติศาสดา 5.2.1 สกุลกำเนิด

บทที่ 5 ของเนื้อหาเกี่ยวกับศาสนาพุทธ อธิบายเรื่องราวในชมพูทวีปก่อนสมัยพุทธกาล รวมถึงประวัติของพระพุทธเจ้า ตั้งแต่สกุลกำเนิดจนถึงการตรัสรู้ พระพุทธเจ้าทรงโปรดสัตว์และประกาศศาสนา ตลอดจนคัมภีร์และหลักคำส

แนวคิด 1. ศาสนาพุทธเกิดที่ประเทศอินเดีย ก่อนพุทธศักราช 45 ปี โดยเกิดหลังศาสนา พราหมณ์ประมาณ 600 ปี ก่อนศาสนาคริสต์ 543 ปี ก่อนศาสนาอิสลาม 1,124 ปี ศาสดา เอกของศาสนาพุทธ คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า 2. มีหล

ศาสนาพุทธเกิดที่ประเทศอินเดียก่อนพุทธศักราช 45 ปี โดยมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นศาสดา มีหลักคำสอนสำคัญ เช่น พระรัตนตรัย อริยสัจ 4 และมรรคมีองค์ 8 จุดหมายสูงสุดคือ นิพพาน ศาสนาพุทธมีนิกายสำคัญสองนิกายคือ

บทที่ 5 ศาสนาพุทธ 5.1 ประวัติความเป็นมา ดินแดนอันเป็นแหล่งกำเนิดของศาสนาพุทธนั้น สมัยโบราณเรียกว่า “ชมพูทวีป” ปัจจุบัน ดินแดนดังกล่าวได้แบ่งแยกออกเป็นหลายประเทศ คือ อินเดีย ปากีสถาน บังกลาเทศ ภูฏาน แล

บทนี้นำเสนอเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของศาสนาพุทธ ที่ก่อตั้งในชมพูทวีปซึ่งแยกเป็นประเทศต่างๆ ในปัจจุบัน พระพุทธเจ้า หรือ เจ้าชายสิทธัตถะ ได้ถือกำเนิดในเขตประเทศเนปาล คนพื้นเมืองในชมพูทวีปได้แก่พวกมิลั

แคว้นใหญ่ในชมพูทวีปเหล่านี้บางครั้งเป็นมิตรกัน บางครั้งก็ทำสงครามรบพุ่งชิงอำนาจ กันตลอดเวลา แคว้นใหญ่ที่มีอำนาจมากที่สุดในสมัยพุทธกาล ได้แก่ แคว้นมคธกับแคว้นโกศล พระพุทธเจ้าศาสดาของศาสนาพุทธถือกำเนิดใ

บทความนี้เสนอภาพรวมของแคว้นใหญ่ต่าง ๆ ในชมพูทวีปในยุคก่อนพุทธกาล โดยมีการวิเคราะห์ถึงสภาวะการปกครองที่แบ่งแยกตามวรรณะและการบริหารของแต่ละแคว้น ตั้งแต่การปกครองในรูปแบบที่มีกษัตริย์หรือคณะบุคคล การแบ่ง

4) ชนชั้นสูงกับชนชั้นต่ำในสังคมมีมาก ชนชั้นกลางมีน้อย 5) ความคิดด้านศาสนาเกี่ยวกับเรื่องการตายแล้วเกิด ในหมู่ผู้ที่เชื่อเช่นนั้นยังมี ความคิดเห็นแตกต่างกันเป็นหลายพวก ทำให้เกิดลัทธิต่าง ๆ มากมาย เช่น

เนื้อหาเกี่ยวกับชนชั้นในสังคมที่มีชนชั้นสูงและต่ำมาก แต่ชนชั้นกลางน้อย โดยเฉพาะในศาสนาพุทธที่มีความเชื่อเกี่ยวกับการเกิดและการตายแตกต่างกันมากมาย มีคณาจารย์หลายคนที่เผยแพร่ลัทธิ เช่น ปูรณกัสสปะ ว่าบุญ

1. คันธาระ ตั้งอยู่ตรงลุ่มน้ำสินธุตอนบน นครหลวงชื่อ ตักศิลา เป็นสถาน ศึกษาศิลปวิทยา มีคณาจารย์ที่เรียกกันว่า ทิศาปาโมกข์ มีชื่อเสียงกระฉ่อนไปถึงประเทศกรีก และไอยคุปต์ว่า เป็นศูนย์กลางของวิชาการ ปัจจุบ

เนื้อหาด้านล่างนี้นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับแคว้นโบราณในอินเดียที่สำคัญ เช่น คันธาระ, กุรุ, ปัญจาละ, โกศล, มัลละ, วัชชี, อังคะ, กัมโพชะ, มัจฉะ, สุรเสนะ และวังสะ แต่ละแคว้นมีนครหลวงและเหตุการณ์สำคัญที่เกี่ย

เป็นการเสียสัตย์ เมื่อเป็นดังนี้ พระองค์จึงตรัสสั่งให้พระราชโอรสและพระราชธิดาทั้ง 9 พระองค์ ซึ่งประสูติจากพระนางหัตถาไปสร้างพระนครอยู่ใหม่ พระราชโอรสและพระราชธิดาทั้ง 9 พระองค์ได้เสด็จออกจากพระนครด้วย

เรื่องราวเกี่ยวกับการสร้างพระนครกบิลพัสดุ์โดยพระราชโอรสและพระราชธิดาของพระเจ้าโอกกากราช และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเจ้าหญิงปิยาที่เป็นโรคเรื้อนโดยที่ครอบครัวได้หาทางให้พระนางมีที่อยู่ที่ปลอดภัย โดยรวมเ

ต่อมาวันหนึ่ง เวลาเช้าตรู่ เสือโคร่งตัวหนึ่งเที่ยวแสวงหาอาหารได้กลิ่นพระนาง ปิยาซึ่งประทับอยู่ในหลุมนั้นก็ขุดดินลงไปตามกลิ่นนั้น ฝ่ายพระนางปิยาทรงเห็นเสือโคร่งก็ ทรงร้องด้วยเสียงอันดัง เสือโคร่งตกใจก็

ในเช้าวันหนึ่ง เสือโคร่งได้กลิ่นพระนางปิยาและได้ยินเสียงร้องจากพระนาง ทำให้พระเจ้ารามมาช่วย พระนางหายจากโรคและมีความรักกับพระเจ้าราม ต่อมาได้มีความสัมพันธ์กับบุตรหลานและการปกครองที่สืบทอดกันมาจนถึงราช

ปชาบดี หรือ โคตมี พระเจ้าสุทโธทนะได้ทรงอภิเษกสมรสกับพระนางมายา มีพระราชโอรส 1 พระองค์ คือ สิทธัตถะ ครั้นพระนางมายาทิวงคต พระเจ้าสุทโธทนะได้ทรงอภิเษกสมรสกับพระนางปชาบดี มีพระราชโอรส 1 พระองค์ คือ นันทะ

เนื้อหานี้กล่าวถึงประวัติและต้นกำเนิดของพระพุทธเจ้าซึ่งเกิดในสวนลุมพินีวัน มีพระนามว่า สิทธัตถะ โคตมะ และเป็นพระโอรสของพระเจ้าสุทโธทนะกับพระนางมายา การเล่าเรื่องรวมถึงความสัมพันธ์ในวงศ์ตระกูลของพระโนเ

ในสมัยนั้นมีดาบสองค์หนึ่งชื่อ อสิตะ หรือ กาฬเทวิล ผู้ซึ่งเป็นที่คุ้นเคยและเป็นที่ นับถือของราชตระกูลมาก เมื่อได้ทราบข่าวการประสูติของพระราชกุมาร จึงเข้าไปในพระราชวัง เพื่อขอชมพระกุมาร เมื่อท่านได้เห็น

ในสมัยนั้นมีดาบสชื่อ อสิตะ ผู้ที่เคารพพระราชตระกูล เมื่อทราบข่าวการประสูติของพระราชกุมาร ตนได้เข้าไปในพระราชวังและเห็นพระกุมารที่มีลักษณะเลิศเลอจึงรู้ว่าพระองค์จะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ในพิธีปลูกฝังพร

พระราชาเสด็จลงทำพิธีไถนาเป็นปฐมฤกษ์พร้อมด้วยอำมาตย์ราชบริพารชั้นผู้ใหญ่รวม 108 ไถนั้น พวกพระพี่เลี้ยงก็ออกมาชมด้วย ทิ้งพระกุมารไว้ในม่านแต่พระองค์เดียว เมื่อพระกุมาร อยู่ตามลำพังพระองค์เดียวก็ทรงลุกขึ

เนื้อหานี้บรรยายถึงพระราชาที่ประทับในการทำพิธีไถนาและความเกี่ยวข้องกับพระราชกุมารสิทธัตถะที่เริ่มฝึกภาวนาและศึกษาศิลปศาสตร์ตั้งแต่เด็ก จนเติบโตขึ้นเป็นเจ้าชายในพระราชสำนัก ก่อนจะอภิเษกสมรสและเข้าสู่วั

ชราด้วยกันทั้งนั้น ก็บังเกิดสังเวชพระทัยจึงเสด็จกลับพระราชวัง วันต่อมาเมื่อเจ้าชายได้เสด็จประพาสพระอุทยานอีก ก็ทรงพบเห็นคนเจ็บและคน ตายในวาระที่สองและที่สาม ก็ทรงถามดังเช่นคราวก่อน เมื่อทรงทราบว่าเป็น

ในข้อความนี้กล่าวถึงการที่เจ้าชายสิทธัตถะเสด็จออกบรรพชาเมื่อได้พบเห็นความตายและความเจ็บป่วยของมนุษย์อย่างเป็นจริง เขาสำรวจถึงสาเหตุของทุกข์และการหาทางออกจากทุกข์ที่เขาเห็นว่าเป็นธรรมดาของชีวิต เมื่อเข

และอัสสชิ ทั้ง 5 นี้รวมเรียกว่า ปัญจวัคคีย์ ทั้ง 5 คนนี้ได้ตัดสินใจออกบวชติดตามหาพระ โคดมต่อไป และพระเจ้าพิมพิสารผู้ครองแคว้นมคธ เมื่อได้ทรงทราบข่าวการเสด็จออก บรรพชาของเจ้าชายสิทธัตถะ จึงได้เสด็จไปยั

เนื้อหาเกี่ยวกับพระโคดมและการตัดสินใจออกบวชของพระองค์ รวมถึงการศึกษาที่สำนักดาบส และการบำเพ็ญทุกรกิริยาที่เขาทำในตำบลอุรุเวลาเสนานิคม เมื่อพระองค์เห็นว่าสถานที่นั้นน่ารื่นรมย์และสงบ จึงได้เลือกบำเพ็ญเ

ลำดับจะเสด็จไปทางไหนก็คอยซวนเซล้ม แม้พระองค์จะทรงทรมานพระกายถึงขนาดนี้ก็หา บรรลุคุณวิเศษใดๆ ไม่ พระองค์จึงทรงพิจารณาเห็นว่า การบำเพ็ญเพียรทางกายอย่างมากก็ทำกันได้เพียง แค่นี้เอง ไม่ดีไปกว่านี้แน่ ถึงก

เนื้อหานี้กล่าวถึงความสำคัญของการเดินสายกลางในการบำเพ็ญเพียรทางจิตใจของพระสมณโคดม ในขณะที่พระองค์ทรงทรมานร่างกาย แต่ไม่สามารถเข้าถึงคุณวิเศษใดๆ ได้ พระองค์จึงได้ปรับเปลี่ยนการปฏิบัติโดยหันมาให้ความสำค

ในเช้าวันขึ้น 14 ค่ำ เดือน 6 พระสมณโคดมได้ทรงรับข้าวมธุปายาสพร้อมถาด จากนางสุชาดา ซึ่งนางนำมาแก้บนที่ได้บุตรคนหัวปีเป็นชาย เมื่อเสวยข้าวมธุปายาสจนหมด จำนวน 49 ก้อน แล้วก็ทรงนำถาดทองใบนั้นไปลอยในน้ำ โด

ในเช้าวันขึ้น 14 ค่ำ เดือน 6 พระสมณโคดมได้ทรงรับข้าวมธุปายาสจากนางสุชาดาเพื่อตอบแทนที่ได้บุตรชาย เมื่อพระองค์เสวยข้าวหมดและลอยถาดในน้ำ พบว่าถาดลอยทวนน้ำ ซึ่งทำให้ทรงมั่นใจว่าจะได้ตรัสรู้ ต่อมาเมื่อถึง

แนะนำสั่งสอนให้ตั้งตนอยู่ในคุณธรรมความดีได้ เปรียบเสมือนดอกบัวที่ยังอยู่ในน้ำ พอมีหวัง จะบานได้ในอนาคต แม้จะนานสักหน่อยก็ตาม แต่บางคนก็หมดปัญญาที่จะแนะนำได้ ย่อมตก เป็นทาสของกิเลส มานะทิฐิ ตลอดไป เปรี

การสั่งสอนให้ตั้งตนในคุณธรรมความดีเปรียบเสมือนดอกบัวที่มีหวังจะบาน ในการแสดงปฐมเทศนา พระพุทธเจ้าทรงพิจารณาและเสด็จไปหาปัญจวัคคีย์ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน โดยทำให้โกณฑัญญะซึ่งเป็นผู้ที่มีอาวุโสที่สุดได้ด

บางคนก็ขอบวช แต่สาวกเหล่านั้นยังให้บวชเองไม่ได้ จึงต้องพากุลบุตรเหล่านั้นมาเฝ้า พระพุทธเจ้าเพื่อให้พระองค์บวชให้เอง ทำให้ได้รับความลำบากในการเดินทางมาก ฉะนั้น พระพุทธเจ้าจึงทรงอนุญาตให้สาวกเหล่านั้นอุ

การบวชในพระพุทธศาสนาเริ่มจากการให้สาวกไปเฝ้าพระพุทธเจ้าเพื่อขอบวช และในที่สุดพระองค์ทรงอนุญาตให้สาวกอุปสมบทได้โดยการโกนผมและหนวดเครา พร้อมกับการปฏิญาณตนถึงพระรัตนตรัย การเผยแพร่พระศาสนาได้ดำเนินไปอย่า

พระชนมายุ 80 พรรษา ก่อนวันที่จะเสด็จดับขันธปรินิพพาน 1 วัน ได้เสด็จไปแสดงธรรม โปรดนายจุนทะ และนายจุนทะได้ถวายภัตตาหารเช้าซึ่งมีอาหารที่ได้จัดเป็นพิเศษถวาย คือ สุกรมัทวะ หลังจากเสวยเสร็จแล้วในระหว่างทา

เนื้อหาบรรยายถึงเหตุการณ์ในวันสุดท้ายของพระพุทธเจ้า ที่เสด็จดับขันธปรินิพพาน ทั้งที่เมืองกุสินารา โดยมีกล่าวถึงสาเหตุและการเตรียมงานเผาศพ พร้อมทั้งเสนอการแจกจ่ายพระบรมสารีริกธาตุไปยังนครต่างๆ นอกจากนี